แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล เอฟเอ คัพ (รอบรองชนะเลิศ)
วันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2022 เวลา 21.30 น.
สนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
อัตราต่อรอง แมนฯซิตี้ ต่อ 0.25
ผลงาน 5 นัดหลัง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
20/03/22 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 (เยือน, เอฟเอ คัพ)
02/04/22 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
05/04/22 ชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
10/04/22 เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
13/04/22 เสมอ แอตเลติโก มาดริด 0-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
ลิเวอร์พูล
20/03/22 ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 (เยือน, เอฟเอ คัพ)
02/04/22 ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
05/04/22 ชนะ เบนฟิก้า 3-1 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
10/04/22 เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
13/04/22 เสมอ เบนฟิก้า 3-3 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
H2H
03/07/20 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
08/11/20 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
07/02/21 ลิเวอร์พูล 1-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
03/10/21 ลิเวอร์พูล 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
10/04/22 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อม
เจ้าถิ่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของผู้จัดการทีมชาวสแปนิช เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ รูเบน ดิอาส กับ โคล พาล์มเมอร์ หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาแล้ว ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องเช็คความฟิต
การจัดทีมตามแผน 4-3-3 ทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ อาจพร้อมออกสตาร์ทร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน, อายเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา คันเซโล่, โรดรี้ เอร์นานเดซ และ ฟิล โฟเด้น ทำให้ กาเบรียล เชซุส, ริยาด มาห์เรซ, แฟร์นานดินโญ่, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เนธาน อาเก้ และ แจ็ค กรีลิช ต้องรอโอกาส
ทีมเยือนลิเวอร์พูล เก็บแชมป์แรกในฤดูกาลนี้ไปแล้วด้วยถ้วยคาราบาว คัพ แมตช์นี้ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ และเพียงต้องเช็คความฟิตของ ดีโอโก้ โชต้า กับ เคอร์ติส โจนส์
การจัดทัพตามแผน 4-3-3 เตรียมส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฟาบินโญ่, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้พักจากการเป็นตัวสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัด 2 กลับมาเป็นตัวจริงพร้อม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โฌแอล มาติป และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ โดยมี เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า, อิบราฮิม่า โกนาเต้, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจ โกเมซ, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ หลุยส์ ดิอาซ เป็นตัวสอดแทรก
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์สัน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา คันเซโล่ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
บทวิเคราะห์
เอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกระหว่าง แมนฯซิตี้ ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการยังยอดเยี่ยมจากการซิวชัย 3 เกมซ้อน แม้เสมอติด 2 เกมหลังสุด แต่ไร้พ่ายตลอด 10 นัดที่ผ่านมา แต่เกมรับ-รุกยังเล่นได้ตามมาตรฐาน
ลิเวอร์พูล ฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการยังดีเยี่ยมด้วยการกวาดชัย 5 เกมติดต่อกัน แม้เสมอรวด 2 เกมหลังสุด พร้อมเกมรับ-รุกยังสอดประสานลงล็อค และหวังผลได้เสมอ แมตช์นี้ “เรือใบสีฟ้า” กับ “หงส์แดง” ทันกันทุกเหลี่ยมทุกมุม และเตรียมแลกกัน ทำให้โอกาสจบลงด้วยผลเสมอกันอีกมีความเป็นไปได้สูง
ฟันธง รองหงส์แดง
ผลสกอร์ที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล